เลือด เป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดหนึ่งซึ่งมีสารระหว่างเซลล์
เป็นของเหลวเป็นตัวกลางติดต่อระหว่างเซลล์ของร่างกาย
และมีเม็ดเลือดเป็นเซลล์ล่องลอยอยู่ ในร่างกายมีเลือดอยู่ประมาณ 7 – 8 % ของน้ำหนักตัว
ปริมาณของเลือดแตกต่างกันไปตาม อายุ ขนาด น้ำหนักตัว เพศ และ สภาวะของสุขภาพ
เลือดมีสีแดงเมื่ออยู่ในหลอดเลือดแดง มีสีคล้ำลงเล็กน้อยเมื่ออยู่ในหลอดเลือดดำ
มีความหนืดกว่าน้ำ 5 เท่า มีอุณหภูมิประมาณ 37.8๐C มีฤทธิ์เป็นด่างเล็กน้อย มีกลิ่นคาว
หน้าที่ของเลือด
1. ระบบการขนส่ง ออกซิเจน อาหาร ภูมิต้านทน โปรตีน ระบบป้องกันตัวเอง
การทำลายของเสีย
2. ระบบป้องกันด้วยระบบภูมิคุ้มกัน
3. ควบคุมความสมดุลของร่างกาย โดยการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
การตรวจจะประกอบไปด้วยการตรวจต่างๆ
ได้แก่
- การตรวจหาปริมาณฮีโมโกลบิน ( Hemoglobin )
- การตรวจหาปริมาณเม็ดเลือดแดงอัดแน่น ( Hematocrit; Hct )
- การนับแยกชนิดของเซลล์เม็ดเลือดขาว ( White blood cell differentiation )
- การตรวจดูลักษณะรูปร่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง ( Red blood cell morphology )
- คาดจำนวนเกร็ดเลือด ( Platelet estimation )
ประโยชน์ของการตรวจ
การเก็บเลือดเพื่อตรวจ โดยเจาะเลือดจากเส้นเลือดดำบริเวณข้อแขนหรือข้อมือ
ใช้ปริมาณประมาณ 2.5 - 3 มล. และเก็บเลือดไว้ในหลอดแก้วที่บรรจุสารกันเลือดแข็งที่เรียกว่าอีดีทีเอ
(EDTA) ตาอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการแข็งตัวของเลือดที่จะตรวจ
มีวิธีการตรวจ CBC มีดังนี้
1. วิธีตรวจโดยนำเลือดมาตรวจบนแผ่นสไลด์
และส่องกล้องจุลทรรศน์ และนำเลือดบางส่วนมาปั่นเพื่อหาค่าความเข้มข้นของเลือด ( ปริมาณเม็ดเลือดแดงอัดแน่น ) ส่วนการตรวจเม็ดเลือดขาวก็นำมาผ่านกรรมวิธีทำลายเม็ดเลือดแดงแล้วจึงเอามาใส่สไลด์และส่องกล้องเพื่อนับปริมาณเม็ดเลือดขาวอีกครั้งหนึ่ง
2. วิธีตรวจด้วยการประมาณ
เป็นวิธีที่ใช้หลักการเดียวกับวิธีที่1 แต่ตัดขั้นตอนที่ละเอียดและใช้เวลาลง
โดยการ นำเลือดมาปั่นหาค่าความเข้มข้นของเลือด และดูจากสไลด์เท่านั้น
ซึ่งปริมาณเม็ดเลือดขาวที่ได้ก็จะเป็นการกะประมาณ ค่าอื่นๆ เช่น
ปริมาณฮีโมโกลบินก็ไม่สามารถตรวจได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น